
โลกศิลปะยุคกลางของอังกฤษถูกส่องสว่างด้วยผลงานที่น่าทึ่งจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นก็คือ “Lindisfarne Gospels” ผลงานชิ้นเอกที่สร้างขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ 7 ณ Lindisfarne (ปัจจุบันอยู่ใน Northumberland, อังกฤษ)
ผู้เขียน “Lindisfarne Gospels” นั้นเป็นพระสงฆ์ผู้ไม่ปรากฏชื่อ และได้รับการขนานนามว่าเป็น “Master of the Lindisfarne Gospels”.
งานชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจอย่างลึกซึ้งเพื่อเป็นพันธสัญญาของพระคัมภีร์, ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะพบในสำเนาของพันธสัญญาใหม่ และพันธสัญญาเดิม “Lindisfarne Gospels” ถูกตกแต่งด้วยภาพวาดขนาดใหญ่ที่แสดงถึงฉากสำคัญจากพระคัมภีร์
ลักษณะที่โดดเด่นของ “Lindisfarne Gospels”:
- งานศิลปะ Celtish:
“Lindisfarne Gospels” ถือเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของศิลปะ Celtish ซึ่งเป็นศิลปะที่มีรากเหง้ามาจากวัฒนธรรมเกลlic และ Britton ของยุโรปเหนือ ภาพวาดแสดงลักษณะเด่นของศิลปะ Celtish เช่น
* **ลวดลายถี่แน่น:** ลวดลายซับซ้อนและละเอียดอ่อนที่คล้ายกับเงยิงทิศทาง
* **สัญลักษณ์ทางศาสนา:** สัญลักษณ์คริสต์ เช่น ซี่ดorsal และสัญลักษณ์ Pagan เช่น "triskel" (สามเหลี่ยมที่เชื่อมต่อกัน)
* **สีสันอันสดใส:** "Lindisfarne Gospels" ใช้สีอย่างร่าเริง เช่น สีแดง, น้ำเงิน, เขียว, และทอง
- อักษร illuminations:
นอกจากภาพวาดแล้ว, “Lindisfarne Gospels” ยังโดดเด่นด้วย “illuminations” หรือการตกแต่งตัวอักษรด้วยสีสันและลวดลาย การตกแต่งนี้ทำให้ข้อความในพระคัมภีร์ดูน่าสนใจและศักดิ์สิทธิ์
การตีความ “Lindisfarne Gospels”:
“Lindisfarne Gospels” ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังสือศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น, แต่ยังเป็นหน้าต่างที่เปิดเผยให้เห็นวิถีชีวิต, ความเชื่อ, และทักษะทางศิลปะของผู้คนในยุคกลาง
- ความศรัทธาอันแรงกล้า: “Lindisfarne Gospels” แสดงถึงความศรัทธาอย่างลึกซึ้งของชาวคริสต์ในยุคกลาง
- ความสำม comprennent ของศิลปะ Celtish: งานชิ้นนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความมีชีวิตชีวาและความหลากหลายของศิลปะ Celtish
“Lindisfarne Gospels”: มรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่ลืมเลือน:
ปัจจุบัน “Lindisfarne Gospels” อยู่ภายใต้การดูแลของ British Library และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผลงานศิลปะที่สำคัญที่สุดของอังกฤษ
ความสวยงาม, ความวิจิตร, และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ทำให้ “Lindisfarne Gospels” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่ลืมเลือน